การนอนช่วยชะลอวัย ห่างไกลโรค วันนี้แอด LOTTOSOD นำวิธีการนอนหรือแม้กระทั่งช่วงเวลาการนอนที่จะทำให้เราได้รับผลดีที่ดีจากการนอนมาฝากทุกท่านค่ะเราคงได้ยินบ่อยๆ ว่าคนเราต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมง จึงจะดีต่อ สุขภาพ คำแนะนำนี้แม้จะเป็นคำแนะนำที่ดีมากแต่ก็ไม่ถูกต้องเสียทั้งหมด เชื่อว่าหลายท่าน โดยเฉพาะท่านที่ต้องทำงานหนักทั้งวัน หรือมี ความเครียดสูง อาจจะเคยผ่านประสบการณ์ที่รู้สึกว่าตนเองหลับไม่เต็มอิ่ม หรือตื่นมาแล้วยังคงง่วงอยู่อย่างนั้นทั้งที่นอนไปแล้วตั้งหลายชั่วโมง เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะการนอนที่มีคุณภาพเท่านั้นจึงจะบำรุงสุขภาพและ ชะลอความแก่ของเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ชั่วโมงการนอนสำคัญก็จริง แต่ที่สำคัญกว่าคือ หลับลึกหรือไม่ การนอนให้มีคุณภาพจึงไม่ใช่แค่การนอนไปเรื่อย ๆ โดยยึดเอาจำนวน ชั่วโมงเข้าว่าตามที่หลายคนเข้าใจ วันนี้ การนอนช่วยชะลอวัย ห่างไกลโรค ที่แอดนำมาฝากนี้มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

ช่วงเวลาแห่งการนอนหลับ

ทางการแพทย์จะแบ่งการนอนออกเป็นหลายช่วง แต่ในที่นี้หมอ จะขอแบ่งเป็น 3 ช่วงสำคัญ เพื่อให้คุณผู้อ่านเข้าใจง่ายๆ คือช่วงหลับตื้น หลับลึก และ หลับฝัน

ช่วงหลับตื้น (Alpha Wave) คือ ช่วงหลับที่ยังกระดุกกระดิก ยังได้ยินเสียงรอบข้าง ช่วงนี้จะยังไม่ฝัน และตื่นได้ง่ายหากมีแสงหรือ เสียงรบกวน

ช่วงหลับลึก (Delta Wave) คือ ช่วงที่ร่างกายเข้าสู่การ พักผ่อน หลับสนิท และตื่นยากจนไม่ค่อยรับรู้ถึงสิ่งเร้าภายนอก ส่วนใหญ่ จะเกิดหลังจากนอนหลับไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง (Repairing Hormone) จะหลั่งมากที่สุดในช่วงนี้

ช่วงหลับฝัน (Rapid Eye Movement Sleep หรือ REM) คือ ช่วงหลับที่ร่างกายได้พักผ่อนแต่สมองยังคงตื่นอยู่ ความฝันจะเกิด อย่างเป็นเรื่องเป็นราวในช่วงนี้ ทำให้ออกอาการขณะหลับได้ เช่น ลูกตา กลอกไปมา บ่นพึมพำ คราง หัวเราะ หรือละเมอ ตามเรื่องราวที่กำลังฝัน

การนอนอาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่การนอนทุกครั้งอาจจะไม่ใช่การนอนที่มีคุณภาพ แม้ว่าตัวเรา จะได้ประโยชน์จากการนอนทั้งสามช่วง แต่ช่วงการนอนสำคัญที่หมออยาก เน้นที่สุดคือช่วงที่ร่างกายสามารถหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมามากที่สุด ซึ่งก็คือช่วง “หลับลึก” ในเวลากลางคืนค่ะ

หลับลึก” ช่วงเวลาทอง แห่งการ “ชะลอความแก่

“Growth” แปลว่า การเจริญเติบโต

โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) จึงมีความหมายตามชื่อคือ “ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต” เนื่องจากเป็นฮอร์โมนที่สำคัญมากสำหรับ เด็กๆ เพราะช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต พัฒนาการทางสมอง ความสูง และความแข็งแรงของกระดูก

โดยธรรมชาติแล้วในคนที่อายุยังน้อย ช่วงวัยรุ่นจะมีโกรทฮอร์โมน อยู่มาก แต่หลังจากอายุ 15 ปี โกรทฮอร์โมนจะเริ่มลดลง หากไม่ได้นอน จะเริ่มสังเกตเห็นความเสื่อมโทรมของร่างกายง่ายขึ้น โกรทฮอร์โมนจะยิ่ง น้อยลงไปอีกในคนที่เข้าสู่วัยทอง และพออายุ 60 ปีขึ้นไป ก็แทบจะเหลือ น้อยลงมาก

ดังนั้นสำหรับคนที่พ้นวัยเด็กไปแล้ว โกรทฮอร์โมนจึงน่าสนใจในแง่ ที่เป็น “ฮอร์โมนช่วยชะลอความแก่” ได้ เนื่องจากโกรทฮอร์โมนสามารถ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฟื้นฟูอวัยวะที่เสียหาย บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุง เส้นเอ็น บำรุงรักษาระบบมวลกระดูก หากมีมากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ แต่ถ้ามีน้อยจะทำให้เข้าสู่ภาวะแก่เร็ว เช่น มีผมหงอก ผิวเหี่ยว หน้าแก่กว่าวัย ไม่สดชื่น กระดูกพรุน ลดลง สุขภาพร่างกายโดยรวมอ่อนแอ นี่คือเหตุผลสำคัญที่คนที่อยากมี สุขภาพดีและอยากแก่ช้า ต้องหาทางเต็มโกรทฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกาย ให้มากๆ เข้าไว้

ปัจจุบันเราอาจจะเคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการฉีดโกรทฮอร์โมน เพื่อชะลอวัยและเพิ่มความเป็นหนุ่มสาวในต่างประเทศกันมาบ้าง แต่ ตัวหมอเองคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องรับโกรทฮอร์โมนด้วยวิธีนั้นเนื่องจาก หายากและมีราคาแพงมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่วิธีรักษาที่ดีด้วย จะลำบากและเสียเงินมากมายไปทำไม ในเมื่อแค่ นอน เราก็ได้รับโกรทฮอร์โมนอย่างปลอดภัยแล้ว

ในเชิงทฤษฎีสมองจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมามากที่สุดในช่วงเวลา ห้าทุ่มตีหนึ่งครึ่งของแต่ละวัน และสัมพันธ์กับช่วงการนอนหลับลึก เพราะฉะนั้นเรามารู้เทคนิคการนอนให้หลับลึกพอดีกับช่วงที่ 1 โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมากันสักหน่อย

เทคนิคการนอนกอบโกยโกรทฮอร์โมน

1. เข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม

อย่างที่บอกไปนะครับว่าโกรทฮอร์โมนจะหลั่งมากสุดในช่วงห้าทุ่ม ตีหนึ่งครึ่งของแต่ละวัน และการนอนหลับก็มีขั้นตอนของมัน ไม่มีใคร สามารถบังคับตัวเองให้นอนใบแล้วหลับลึกปั๊บได้ บางคนยังมีเรื่องค้างคา ในหัว บางคนต้องพลิกไปพลิกมาสักพักกว่าจะหลับ เพราะฉะนั้นเราจึงต้อง เผื่อเวลาให้พอเหมาะ

โดยปกติถ้าเข้านอนช่วงสี่ทุ่ม จะทำให้เราเข้าสู่ภาวะหลับลึกประมาณ ห้าทุ่ม-ห้าทุ่มครึ่ง จากนั้นโกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมาไปจนถึงตีหนึ่งครึ่ง และหลั่งลดลงเรื่อยๆ จนถึงเช้า การเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่ม จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เราได้รับโกรทฮอร์โมนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ในกรณีที่ต้องเข้านอนช้ากว่านั้นก็เตือนตัวเองสักหน่อยนะครับว่า อย่าให้เกินห้าทุ่ม หรือช้าที่สุดของที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีและไม่แนะนำเลย ก็คือเที่ยงคืน เพราะแม้จะยังพอได้รับโกรทฮอร์โมนอยู่บ้าง แต่อย่างมาก ก็ได้เพียงครึ่งเดียว หรือแทบไม่ได้เลยถ้าเกินหนึ่งไปแล้วยังหลับไม่ลึก

คนที่อยู่ตึกเกินตีหนึ่ง ชอบโต้รุ่ง ใช้ชีวิตกลางคืน นอนพักตอนกลางวันจะเป็นคนที่แก่ง่าย โทรมไว เพราะจุดเสื่อมของร่างกายไม่ค่อยได้รับการซ่อมแซมจากโกรทฮอร์โมน แม้จะได้นอนพักบ้างในช่วงเวลาอื่นๆ แต่ก็เป็นเพียงการนอนเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกายเท่านั้น

2. งดน้ำตาลหลัง 6 โมงเย็น

ถ้าคุณทำตามข้อ 1 แล้ว แต่ตื่นมาก็ยังไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า เท่าที่ควร ขอให้ทราบว่าบางครั้งอาจจะเป็นเพราะ น้ำตาล

เราต่างก็ทราบกันดีว่าน้ำตาลเป็นศัตรูตัวร้ายของสุขภาพและ ความงาม แต่ความร้ายกาจของมันไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะมันยังสลาย โกรทฮอร์โมนได้ด้วย

ด้วยเหตุนี้ถึงเราจะเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม แต่ถ้าก่อนนอนเผลอไป รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เผลอรับประทานไอศกรีม เครื่องดื่มรสหวาน ขนมนมเนยต่างๆ ตื่นมาก็อาจจะรู้สึกเพลียๆ ไม่สดชื่นได้

บางท่านอาจจะแย้งว่าการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง จะทำให้หลับง่ายขึ้น ก่อนนอนจึงต้องรับประทานอาหารจำพวก แป้งและน้ำตาลสักหน่อยเพื่อให้หลับสบาย

เป็นเรื่องปกติที่เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นคนเราจะรู้สึกง่วงงุน หนังท้องตึงหนังตาหย่อน แต่การเลือกรับประทานโรตี ไอศกรีม ขนมปัง ขนมเค้ก ผลไม้ ซึ่งมีน้ำตาลสูงมากก่อนนอนเป็นทางเลือกที่ผิดมหันต์ถ้าเกิดหิวจริงๆ แนะนำให้รองท้องนิดหน่อยด้วยอาหารจำพวกโปรตีนอย่างปลาทูน่า อกไก่ สลัดผักสด แทนดีกว่าครับอยากได้รับโกรทฮอร์โมนตอนหลับลึกอย่างเต็มที่ หลังหกโมงเย็น ไปแล้วให้งดหรือลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลนะค่ะ

จบไปแล้วสำหรับ การนอนช่วยชะลอวัย ห่างไกลโรค สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนลองนำขั้นตอนหรือวิธีการที่แอดนำฝากนี้ไปปรับใช้กับตัวเองนะคะ การนอนพักผ่อนก็ยังเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพนะคะ ถึงจะอายุเท่าไหร่หากเราดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็จะยังดูเหมือนอายุ 18 อยู่ตลอดกันเลยล่ะค่ะ แต่ยังมีอีกอย่างที่แอดนำมาฝากทุกคนก็คือ สมัครสมาชิกLOTTOSOD กับเราแอดเชื่อว่าทุกท่านจะสนุกไปกับเกมที่เราเตรียมไว้ให้กับทุกท่านแน่นอนค่ะ