ต้านอนุมูลอิสระด้วยกรดอัลฟาไลโปอิก มาอีกตัวกับวิตามินกู้ผิวสวยมีออร่านะคะ วันนี้แอด LOTTOSOD นำกรดอัลฟาไลโปอิก ชื่อไม่คุ้นกันใช่ไหมละคะ แต่บางท่านอาจจะรับประทานกันอยู่ทุกๆวันจากอาหารที่ทานเข้าไปแต่แค่ไม่รู้ว่ามีวิตามินตัวนี้ซ่อนอยู่นั่นเองค่ะ วันนี้แอดก็จะพาไปรู้จักการ ต้านอนุมูลอิสระด้วยกรดอัลฟาไลโปอิก กันค่ะ 

กรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha Lipoic Acid) หรือรู้จักกันในชื่อย่อ ว่า ALA เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวเพราะมัน เป็นเพื่อนของวิตามินซีและวิตามินอี โดยเมื่อไรก็ตามที่ทั้งสามตัวคือ วิตามินซี วิตามินอี และกรดอัลฟาไลโปอิก มารวมตัวประสานกันจะเกิด ประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก ทำให้ความแก่ ความเสื่อม ความโทรมของผิวพรรณเกิดยากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็น 1 ใน 3 องค์ประกอบบำรุงอายุวัฒนะที่ช่วยชะลอวัยก็ว่าได้

ประโยชน์อันน่าทึ่งของกรดอัลฟาไลโปอิก

เพิ่มพลังความหนุ่มสาวให้แก่เซลล์

กรดอัลฟาไลโปอิกเป็นกรดไขมันที่สร้างจากร่างกายภายในเซลล์ ที่ชื่อว่า ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) ซึ่งเจ้าไมโทคอนเดรียนี้ได้รับการ ยกย่องให้เป็น The Powerhouse of the Cell หรือโรงงานผลิตพลังงาน ประจําร่างกายของเราเลยทีเดียว

ในโรงงานผลิตพลังงานประจำร่างกายดังกล่าว กรดอัลฟาไลโปอิก คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้โรงงานนี้ขับเคลื่อนไปได้ เหมือนเป็น Energy Booster หรือตัวเพิ่มพลังงานของเซลล์ เนื่องจากตัวมันเองมีบทบาทที่สำคัญมากในกระบวนการเผาผลาญ (Metabolism) เพื่อผลิตพลังงาน ให้แก่ร่างกาย (Energy Production) นั่นหมายความว่าการที่เรามีกรด อัลฟาไลโปอิกมากจะทำให้ร่างกายสร้าง พลังงานได้เยอะ เซลล์จึงมีคุณภาพ ทั้งยัง อ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มสาว ส่งผลให้ร่างกาย โดยรวมแข็งแรง แต่หากมีน้อยเกินไป จะนำไปสู่ภาวะแก่ชรา หมดเรี่ยวแรง ไม่มี ประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ เท่าที่ควร

ต่อต้านอนุมูลอิสระ

กรดอัลฟาไลโปอิก มีฤทธิ์ในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระสูงมาก สามารถปกป้องเซลล์ร่างกายจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระที่มาจาก แหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่น PM2.5 บุหรี่ การนอนดึก รวมไปถึง ความเครียดของเรา ได้เป็นอย่างดี

กระนั้น ถึงกรดอัลฟาไลโปอิกจะช่วยได้ แต่ก็ยังคงต้องปฏิบัติตนเพื่อ เลี่ยงปัจจัยก่ออนุมูลอิสระด้วยการหลบแดด ป้องกันตัวเองจากฝุ่นควัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่นอนดึก ไม่เครียด ให้ได้ก่อนด้วยนะครับ

และอย่างที่บอกไปตอนต้นนะครับว่ากรดอัลฟาไลโปอิกมีเพื่อนคือ วิตามินอีกับวิตามินซี วิตามินอีละลายในไขมัน ส่วนวิตามินที่ละลายในน้ำ ขณะที่กรดอัลฟาไลโปอิกสามารถละลายได้ทั้งในไขมันและในน้ำ พูดง่ายๆ ก็คือมันสามารถจับทั้งวิตามินอีและวิตามินซีได้ เมื่อสามเกลอเพื่อน มารวมพลังกันจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ จนกลาย เป็น Super Antioxidant ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีแค่เรื่องของผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อทุกเซลล์และยังช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมได้ด้วย

ลดการอักเสบของร่างกายจากภาวะเบาหวานได้

กรดอัลฟาไลโปอีก ช่วยลดการอักเสบผ่านกระบวนการลด อินเตอร์ลิวคิน 6 (Interleukin 6) และ ICAM-1 ซึ่งทั้งสองตัวนี้เป็นตัว สร้างการอักเสบ

มีงานวิจัยมากมายยืนยันว่ากรดอัลฟาไลโปอิกมีส่วนช่วยในการลด การอักเสบของร่างกาย (Inflammation) สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน กรด อัลฟาไลโปอิกสามารถช่วยลดน้ำตาล ลดการอักเสบจากเบาหวาน และ รักษาปลายประสาทจากการทำลายของเบาหวานที่เป็นมานานได้เป็น อย่างดี นอกจากนี้กรดอัลฟาไลโปอีกยังช่วยลดภาวะการอักเสบของ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ รวมไปถึงโรคตับได้อีกด้วย

ค.ศ. 2017 วารสารในเครือ World Obesity Federation ได้นํา งานวิจัย 12 ชิ้น มาวิจัยอีกครั้ง และเสนอผลงานลงในวารสารทางการแพทย์ ชื่อ Obesity Reviews โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “ผู้ที่รับประทาน กรดอัลฟาไลโปอิกติดต่อกันเป็นระยะเวลา 23 สัปดาห์ สามารถลดน้ำหนัก ใต้ประมาณ 1.027 กิโลกรัม”

ผลการวิจัยข้างต้นนอกจากจะชี้ให้เห็นว่า กรดอัลฟาไลโปอิกช่วย ลดน้ำหนักได้แล้ว ยังช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพในการลดการอักเสบ ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้อีกด้วย

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากเซลล์ไขมันคือตัวการสำคัญในการ ปล่อยการอักเสบ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนจึงมักเจ็บตรงนั้น ปวดตรงนี้อยู่เสมอ เช่น ถ้าการอักเสบเกิดที่ข้อก็จะปวดตามข้อ หัวเข่า ถ้าการอักเสบเกิดในศีรษะจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดไมเกรน อักเสบที่กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ก็จะปวดเมื่อยตามเนื้อตัว หากเผลอ ไปเตะโต๊ะก็จะเกิดรอยวงใหญ่ ถ้ามีบาดแผลก็จะเจ็บนาน และหายช้า เรียกได้ว่าเกิดการอักเสบไปแทบทุกส่วน และยิ่งมี ไขมันมากเท่าไร ภาวะการอักเสบก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น

แม้กรดอัลฟาไลโปอิกจะเข้ามาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ก็ไม่ควร ปล่อยปละให้ตนเองมีไขมันสะสมจนกลายเป็นโรคอ้วน เพราะพอเป็น ขึ้นมาแล้วการจะรักษาให้อาการดีขึ้นต้องใช้เวลา และที่สำคัญต้องปรับเปลี่ยน พฤติกรรมของผู้ป่วยหลายอย่างซึ่งไม่ง่ายเลยครับ

กรดอัลฟาไลโปอิก หาได้จากที่ไหนบ้าง

กรดอัลฟาไลโปอิก มีประโยชน์ขนาดนี้แถมชื่อก็ยังไม่ค่อยคุ้นหู อีกต่างหาก น่าจะหายากแน่ๆ เลย…

ไม่เลยค่ะ ไม่ต้องไปหาไกล เอาใกล้ๆ แค่ “อาหาร” ก็มีเยอะแล้ว… กรดอัลฟาไลโปอิกมีมากในบรอกโคลี ผักโขม คะน้า มะเขือเทศ ผักแขนง กะหล่ำ รองจากผักเหล่านี้ก็จะมีอยู่ในตับและเนื้อแดง แต่ก็ขอ ใส่ดอกจันหมายเหตุไว้สักนิดว่า ให้เลือกรับจากกลุ่มผักไว้ก่อนเสมอ เพราะ ตับและเนื้อแดงมีไขมันสูง หากรับประทานมากไปจะกลายเป็นโรคอ้วนได้ หมอจึงไม่ค่อยอยากแนะนำสักเท่าไรครับ

ส่วนปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวันนั้น จากการวิจัยพบว่าควรอยู่ที่ 300-600 มิลลิกรัม และเช่นเดียวกับที่หมอได้แนะนำไว้ในวิตามินตัวอื่นๆ นะครับ คือ ถ้าอยากรู้ว่าตัวเราควรกินเพิ่มอีกเท่าไรก็ต้องไปตรวจเลือด แล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรับประทานให้เหมาะสมกับสุขภาพ ของเราเอง แม้ว่ากรดอัลฟาไลโปอิกจะมีคุณต่อร่างกายมากเพียงใด แต่ถ้าได้รับมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นที่ผิวหนัง เหล่านี้ เป็นต้น

เป็นยังไงกันบ้างคะการ ต้านอนุมูลอิสระด้วยกรดอัลฟาไลโปอิก นี้ไม่ยากอย่างที่คิดใช่ไหมละคะ เราสามารถหาได้จากอาหารที่เราทานในทุกๆวันได้ การเลือกสิ่งที่ดีมีประโยชน์ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี มีผิวอ่อร่าอ่อนวัยอยู่เสมอนะคะ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่แต่เราก็จะยังมีผิวพรรณเหมือนเด็กอายุ 18 กันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ มันนี่ใช่ไหมละคะ มาทางนี้เลยค่ะ สมัครสมาชิกLOTTOSOD กับเราช่องทางการหารายได้เพิ่ม หารายได้เสริม กับเกมสนุกสนานมากมายให้ทุกท่านได้เลือกเล่นกันแบบไม่มีเบื่อกันไปเลยจ้า