บุญข้าวจี่หรือบุญมาฆบูชา ประเพณีบุญข้าวจี่จะมีคำกล่าวที่ว่า พอเถิงเดือนสามค้อย เจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ ปั้นข้าวจี่บ่มีน้ำฮ้อย จัวน้อยเช็ดน้ำตา เป็นคำคมจากผู้เฒ่าผู้แก่สมัยโบราณ หรือเป็นผะหยาล้อเลียนหยอกล้อสามเณร LOTTOSOD จะพาเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านไปเรื่องรู้วิถีชีวิตของคนชาวภาคอีสาน และไปทำความรู้จักกับบุญข้าวจี่ หากพร้อมกันแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ
มูลเหตุแห่งการทำบุญข้าวจี่
บุญข้าวจี่เป็นเวลาที่ชาวบ้านหมดภาระจากการทำงาน จึงร่วมกันทำข้าวจี่ถวายพระสงฆ์ ตำนานบุญข้าวจี่มีเล่าไว้ว่าได้กระทำกันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
เรื่องเล่าเกี่ยวกับบุญข้าวจี่
วันหนึ่งพระสงฆ์องค์หนึ่งเสด็จไปบิณฑบาตที่บ้านเศรษฐีปุณณะขนาดนั้นนางปุณณทาสี คนใช้ของเศรษฐีเจ้าของบ้าน กำลังย่างข้าวเหนียวเพื่อรับประทานเอง ครั้นนางเห็นพระพุทธองค์ ออกรับบิณฑบาต นางไม่มีปัจจัยสิ่งอื่น จึงเอาข้าวจี่ก้อนนั้นไปถวายใส่บาตรแด่พระพุทธองค์ เมื่อนางใส่บาตรไปแล้ว นางทาสีมีจิตกังวนว่าพระพุทธองค์คงไม่เสวย เพราะภัตตาหารที่นางถวายไปนั้นไม่ปราณีต ข้าวย่างหรือข้าวจี่นั้นเป็นอาหารของชาวบ้านที่ค่อนข้างจะยากจน พระพุทธองค์ทรงทราบวาระจิตของนาง จึงรับสั่งให้พระอานนท์ปูอาสนะ ตรงนั้นเพราะพระพุทธองค์ได้ให้ศีลและฉันภัตตาหารของนาง เมื่อฉันเสร็จก็แสดงพระธรรมเทศนาโปรดนาง ทำให้นางปลื้มปิติและตั้งใจฟังจนบรรลุโสดาปัตติผล ครั้นนางตายไปได้ไปเกิดบนสวรรค์ด้วยอานิสงส์ของนางที่ได้ทานข้าวจี่ก้อนนั้น
ชาวอีสานกับความเชื่อเกี่ยวกับบุญข้าวจี่
ชาวอีสานมีความเชื่อว่าถ้าเราทำบุญด้วยข้าวจี่นั้น จะได้รับผลบุญมากเช่นเดียวกับนางปุณณทาสีการให้ทานด้วยก้อนข้าวจี่นั้นเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า ความยากจนไม่เป็นอุปสรรคในการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน
วิธีการทำบุญข้าวจี่
การทำบุญข้าวจี่ใช้เวลาในการทำวันเดียวและใช้เวลาไม่นานนักก่อนถึงวันทำบุญ ชาวบ้านก็จะประชุมตกลงกันและกำหนดวัน พอได้วันที่กำหนดแน่นอนแล้วชาวบ้านก็จะส่งตัวแทน ซึ่งจะเป็นมรรคทายกหรือผู้สูงอายุ ไปนิมนต์พระวัดบ้านใกล้เรือนเคียงมาร่วมทำบุญด้วย ตอนเย็นก่อนจะถึงวันงานชาวบ้านจะรวมกันไปฟังพระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถาที่วัด และเตรียมหมากพลูบุหรี่มวนไปถวายพระในวันรุ่งขึ้น เมื่อถึงวันทำบุญชาวบ้านจะตื่นแต่เช้านำข้าวจี่มาตักบาตรเสร็จแล้วร่วมกันไปถวายภัตตาหารคาวหวาน เมื่อฉันเสร็จแล้วจะเทศนาโปรด 1 กัณฑ์เป็นเสร็จพิธี
วิธีการทำข้าวจี่
หรือข้าวเหนียวย่างนั้นเป็นอาหารของชาวชนบท มีกรรมวิธีทำง่ายๆ คือเอาเกลือโรยข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว เพื่อให้ได้รสกลมกล่อมแล้วนำข้าวเหนียวมาปั้นเป็นก้อนแน่นๆ ปั้นด้วยมือจะได้เป็นรูปกลมหรือรูปรี หรือเป็นแผ่นตามแต่ที่เราจะต้องการ เมื่อปั้นเสร็จแล้วใช้ไม้ไผ่เหลาให้เกลี้ยง แล้วนำไปเสียบเข้าที่ข้าวที่ปั้นแล้วนำมาย่างไฟ ในตอนที่ย่างต้องคอยย่างให้ข้าวสุกทั่วเสมอกันทุกด้าน เมื่อข้าวจวนจะสุกก็ให้ทาไข่ที่เตรียมไว้ ให้ทั่วทั้งก้อนข้าวหลังจากที่ทาไข่แล้วนั้น ก็นำไปย่างให้ข้าวสุกเมื่อย่างสุกดีแล้วชาวบ้านบางคนก็จะดึงไม้ไผ่ออก ทำให้ข้าวจี่มีรอยอยู่ตรงกลาง ตรงรอยนี้เองชาวบ้านจะนิยมนำน้ำอ้อย หรือน้ำตาลก้อนใส่เข้าไปแทน คล้ายกับไส้ขนมหวาน เสร็จแล้วนำเข้าจี่ใส่จานไปตักบาตรหรือนำไปถวายพระ
บุญข้าวจี่หมายถึง
การถวายป้อนข้าวที่ย่างสุกแล้วทำตามกรรมวิธีดังกล่าว บรรพบุรุษได้ผูกกลอนชาวบ้านไว้สอนใจลูกหลานเกี่ยวกับการสืบต่อประเพณีทำบุญข้าวจี่ไว้ว่า
ฮีตหนึ่งนั้น เถิงเมื่อเดือน 3 ได้พากันจี่ข้าวจี่ไปถวายสงฆ์เจ้าเอาแท้หมู่บุญกุศลยังสิค้ำตามเฮามื้อละคาบ หากธรรมเนียมจั่งซี้มีแท้แต่นาน คองหากเคยมีแต่ปางปฐมพุ้นอย่าพากันไลถิ่มประเพณีตั้งแต่เก่า บ้านเมืองเฮาสิเศร้าภัยฮ้ายสิแล่นตาม
หมายความว่า
จารีต 1 นั้นเมื่อถึงเดือน 3 จงพากันย่างข้าวไปถวายพระการทำบุญครั้งนี้กุศลจะส่งสนองผู้กระทำไปทุกเวลา ธรรมเนียมนี้เราทำมาแต่ปางปฐม หากพากันละเลยบ้านเมืองจะหม่นหมองประสบภัยพิบัติ
ในบทความหน้า เว็บหวยหุ้นจ่ายหนัก จะนำเรื่องราวสาระหน้ารู้หรือตำนานเกี่ยวกับอะไรมาฝากเพื่อนๆอีกรอติดตามกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้เว็บแทงหวยLOTTOSOD เว็บอันดับหนึ่งขอตัวลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
ท่านที่มีความสนใจที่จะเป็นสมาชิกท่านสามารถสมัครLOTTOSODได้ง่ายๆโดยคลิกที่สมัครสมาชิก
